การเลี้ยงสุกรเวียดนามในฤดูหนาวทำได้ง่าย

การเลี้ยงหมูในฤดูหนาว หากคุณต้องการเริ่มเลี้ยงสุกรในช่วงฤดูหนาวคุณต้องป้องกันสุกร การผสมพันธุ์หมูในฤดูหนาวมีรายละเอียดปลีกย่อยของตัวเอง หมูบางสายพันธุ์ไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงในฤดูหนาว ตัวอย่างเช่นหมูขลาดไม่ทนต่อลมและอุณหภูมิต่ำ สุกรพันธุ์นี้เป็นสัตว์กินพืช อาหารสัตว์จะไม่ทำงานสำหรับพวกเขา

เมื่อเติบโตในฤดูหนาวแคลเซียมและโปรตีนจะต้องรวมอยู่ในอาหารของปศุสัตว์ สิ่งสำคัญในระหว่างการให้อาหารในฤดูหนาวคือการรักษาน้ำหนักที่หมูได้รับในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่ก็สามารถเพิ่มน้ำหนักได้เช่นกัน

โภชนาการของลูกสุกร

ในฤดูหนาวควรให้อาหารสุกรหญ้าแห้งเป็นหลัก จำเป็นต้องเพิ่มฟีดผสมแครอทและหัวบีทลงในเครื่องป้อน คุณต้องเพิ่มปริมาณรำข้าวสาลีเป็น 40 กิโลกรัมต่อคน ในฤดูหนาวสุกรแทบไม่ได้รับน้ำหนักงานของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์คือการดูแลรักษาน้ำหนักดังนั้นจึงใช้มันฝรั่งดิบเป็นอาหารหลักในอัตรา 50 กิโลกรัมต่อหมูวัยรุ่นหนึ่งตัว เพิ่มแครอทและหัวบีทเป็นผักเพิ่มเติมในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อคน อาหารผสมให้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย - 15 กิโลกรัมต่อหมู

ถ้าเป็นไปได้ให้เพิ่มเวย์นมลงในอาหารของลูกสุกรวัยรุ่น ใช้ซีรั่ม 10 ลิตรต่อเดือนต่อคน เพิ่มวิตามิน Felucene ในอาหารแห้งด้วย การบริโภคต่อคน - ครึ่งถุงต่อเดือน

ด้วยการลดน้ำหนัก หมูเวียดนาม รักษาน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นให้คงที่ ฝึกลูกหมูของคุณให้กินหญ้าแห้งและมันฝรั่งสามารถค่อยๆ ผสมหญ้าแห้งเล็กน้อยลงในอาหารเพื่อให้สุกรคุ้นเคยกับการเคี้ยว ค่อยๆลดสัดส่วนของมันฝรั่งในอาหารสัตว์และเพิ่มสัดส่วนของหญ้าแห้ง

หากคุณรวมหญ้าแห้งในอาหารของคุณคุณก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มอาหารแห้งทุกวัน คุณสามารถเติมรางได้ทุกสามวัน

สองเดือนก่อนที่จะฆ่าหมูให้ไม่รวมหัวบีทจากอาหารและเพิ่มสัดส่วนของแครอทเป็นสองเท่าเนื่องจากหัวบีทจะทำให้คุณภาพของเนื้อสัตว์ลดลง

พยายามรักษาอุณหภูมิให้คงที่ในคอกหมูและมีน้ำค้างแข็งตั้งแต่ -15เกี่ยวกับจากถึง -25เกี่ยวกับเพิ่มสัดส่วนของอาหารสัตว์ผสมและรำข้าวสาลี

ลูกหมูเดิน

สุกรเวียดนามทนน้ำค้างแข็งได้ดีถึง -20เกี่ยวกับC แต่มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนในช่วงฤดูหนาว หากคุณเลี้ยงหมูเพื่อใช้น้ำมันหมูก็ไม่จำเป็นต้องเดิน แต่ถ้าคุณวางแผนที่จะได้รับปริมาณเนื้อสูงสุดการเดินลูกหมูในฤดูหนาวเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก พาลูกหมูไปเดินเล่นทุกๆสามวันจากนั้นพวกมันก็จะกระฉับกระเฉงและไม่อ้วน

สวน

บ้าน

อุปกรณ์